ว่าด้วยการทำสมาธิที่สำหรับคนสมัยนี้อาจจะยังมีควมต่อต้านกันบ้าง เพราะหลายๆเรื่องที่รู้สึกว่าสามารถที่จะเอาเวลาในส่วนนี้ไปทำงานในส่วนอื่นๆได้เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วหลายคนทราบมาตลอดว่าการนั่งสมาธิเป็นเรื่องดี แต่สุดท้ายเรื่องของเวลากลายเป็นตัวตัดสินขนานใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้จะให้ง่ายเลยก็คือจะต้องจัดเวลาให้เป็นแต่ประเด็นของการจัดเวลาให้ถูกนั้นบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องแบ่งเวลาแบบไหนหรือจะต้องให้ได้เวลาช่วงไหนถึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะฉะนั้นก็มีตัวอย่างของเวลาที่สามารถแบ่งมาเพื่อทำสมาธิได้เหมือนกัน
ตื่นนอน
ตื่นนอนเป็นช่วงระยะเวลาแรกๆที่คาบเกี่ยวกันระหว่างว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดีหรือไม่ดี ถ้าจะถามว่าเป็นเพราะอะไร อย่างน้อยๆเลยนั่นก็คือเรื่องของความรู้สึกหลังจากการตื่นนอนถ้าหากว่ารู้สึกดีมีความสุขแน่นอนว่าวันนั้นทั้งวันจะเป็นวันที่ดี และเมื่อไหร่ก็ตามที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกแย่หรือรู้สึกไม่โอเคเลยกับวันนั้นๆ ก็จะทำให้วันนั้นกลายเป็นวันที่ไม่ดีได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคงเป็นเหตุผลที่เพียงพอกับการนั่งสมาธิหลังจากตื่นนอน
ไม่จำเป็นจะต้องแบ่งเวลาให้ได้เป็น 20-30 นาที แต่ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 5-7 นาทีในการนั่งสมาธิหลังตื่นนอน ก็จะทำให้มีสติมากขึ้นและรู้ได้ว่าหลังจากนี้จะต้องทำอะไรภายใน 1 วัน ที่สำคัญยังทำให้การจัดระเบียบชีวิตในเวลา 1 วันนั้นเป็นไปได้ดีมากขึ้นด้วย
บ่ายก่อนเริ่มทำงาน
ถ้าคิดว่าการทำงานในช่วงเช้าที่ผ่านมารู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่กดดัน หรือมีเรื่องเข้ามากระทบมากมายจะเห็นได้ชัดเลยว่าพอถึงเวลาไปบ่าย ทางสมองและร่างกายจะรู้สึกเพลีย ไม่มีแรง และไม่อยากที่จะทำงานต่อด้วยซ้ำเอาง่ายๆก็คือไม่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทํางาน เพราะฉะนั้นจะเริ่มกลับมาตั้งสติให้กับตัวเองถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
โดยอาจจะไปหามุมพักผ่อนในที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ แล้วนั่งหลับตาเพียงแค่ 5 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้วกับการดึงสติกลับมาเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองในการทำงานครั้งต่อไปได้
ก่อนนอน
เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสากลสำหรับการทำสมาธิของทุกคนก็ว่าได้ เอาจริงๆแล้วการทำสมาธิก่อนนอนนั่นหมายถึงประโยชน์จากการที่จะได้รู้ว่าภายใน 1 วันที่ผ่านมาทำอะไรไปแล้วบ้าง และจริงๆแล้วได้รับประโยชน์หรือเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาอีกจากการทำสมาธิ เพราะฉะนั้นแล้วการเริ่มต้นวันใหม่ๆด้วยการนั่งสมาธิก่อนนอนนั่นหมายความว่าในวันพรุ่งนี้อาจจะรู้เลยว่าตัวเองต้องทำอะไรหรืออยากที่จะทำอะไรมากขึ้น
อย่างน้อยทั้ง 3 เวลานี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สามารถนั่งสมาธิเพื่อเรียกสติและเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองได้ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ง่ายๆเลยพี่บางคนจะทำใจนั่งได้เพราะอาจจะรู้สึกเหมือนมีสิ่งรบกวนอยู่ตลอดเวลา