บางครั้งชีวิตคนเราอาจจะพบเจออะไรที่ยุ่งเหยิงจนไม่สามารถจัดการได้ และสุดท้ายก็ดูเหมือนกับการเอาเชือกมาพันกันจนหาปลายเชือกไม่เจอ แต่จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ว่าชีวิตจะดูแล้วยากขนาดนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะบางครั้งไม่ได้มีสติกับการใช้ชีวิตทำให้การพบเจอปัญหาหรือสถานการณ์หลายๆอย่างอาจจะทำให้รู้สึกสับสนและไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะแก้ปัญหาหรือสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างไร
ถ้าจะให้ดีเลยก็คือรู้จักว่าการนั่งสมาธินั้นสามารถที่จะแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ได้ เพราะอย่างน้อยแล้วก็เหมือนกับเป็นกิจกรรมในการดึงสติให้กลับมาได้ดีเหมือนเดิม แต่ประเด็นกับอยู่ตรงที่ว่าบางครั้งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดๆหรือไม่ได้รู้วิธีการที่ถูกต้องเกี่ยวกับการนั่งสมาธิ แต่ถ้าจะถามว่าสามารถเรียนการนั่งสมาธิได้จากนั้นก็มีหลายช่องทาง มาดูกันดีกว่าว่าช่องทางไหนที่ดูน่าสนใจสำหรับการเรียนนั่งสมาธิบ้าง
1. แอพฝึกนั่งสมาธิ
เท่าที่ดูแล้วถ้าจะหาช่องทางหรือวิธีที่ตอบโจทย์ให้กับคนในยุคนี้มากที่สุด การใช้แอพพลิเคชั่นนมือถือมาเป็นตัวช่วยในการฝึกสอนการนั่งสมาธินั้นก็เหมือนกับการเป็นตัวช่วยที่ดี น่าจะถามว่าเป็นเพราะอะไรนั่นก็เป็นเพราะว่าแอพเหล่านี้จะมีการเชื่อมโยงกันระหว่างแอพ นับว่าเป็นความสะดวกอย่างนึงเลยทีเดียวเพราะสามารถที่จะตั้งเรื่องของปฏิทินตามวันได้ถ้าหากว่าต้องการที่จะฝึกในการนั่งสมาธิเป็นคอร์ส ส่วนใหญ่แล้วเวลาใช้แอพพลิเคชั่นมันก็จะมีทั้งแบบที่ต้องเสียเงินกับไม่ต้องเสียเงินแต่ในเรื่องของฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ต่างๆนั้นก็จะต่างกันมาก
ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าเมื่อเลือกที่จะใช้แอพพลิเคชั่นมาเป็นตัวช่วยลองเลือกเป็นคอร์สจะทำให้การฝึกมีความต่อเนื่องและค่อยๆปรับสภาพให้เข้าสู่ความเคยชินได้ง่ายๆ
2. YouTube
ถ้าคิดว่าการโหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับการฝึกนั่งสมาธิเอาไว้ในเครื่องแล้ววุ่นวายเกินไป แนะนำว่าอีกวิธีที่ทำได้เลยก็คือการเรียนเอาจาก youtube แต่ตอนนี้ต้องบอกก่อนว่าใน YouTube อาจจะไม่ได้มีการจัดคอร์สเป็นวันๆแบบที่เรียนในแอปแต่ก็สามารถเลือกได้ว่าอยากที่จะเรียนรู้แบบไหนหรือถูกใจการนั่งสมาธิจากคนสอนคนไหม ก็จะทำให้เลือกได้ดีกว่าว่าที่สำคัญการเรียนรู้ผ่าน YouTube นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในด้วยซ้ำไป เอาง่ายๆเลยก็คือเรียนฟรีเพราะฉะนั้นแล้วถ้าใครกลัวว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนหรือการฝึกนั่งสมาธินั้นเราสามารถเรียนรู้ได้จากช่องทางนี้
เห็นได้ว่าทั้ง 2 ช่องทางและมีความต่างกันมากทีเดียว แต่สุดท้ายแล้วจะเลือกแบบไหนก็อยู่ที่ว่าชอบพี่จะเรียนแบบไหนหรือมีความพร้อมในการเรียนแบบไหนมากกว่ากันก็เท่านั้น แต่จะให้ดีถ้าหากไม่มั่นใจก็ค่อยๆดูไปทีละอันอย่างถ้าเป็นใน YouTube ก็ดูเลยว่าแต่ละคลิปนั้นมีการสอนแบบไหนถึงจะเริ่มมาทำตาม